Vanquish (PS3,XBOX360)
โดย Kanann
โดย Kanann
Vanquish ผู้กำกับมิคามิ ชินจิ (Bio Hazard, God Hand, Dino Crisis ฯลฯ) เอาศีรษะเป็นประกัน (?)
จะเทพสมกับที่ Hype จะสุดยอดสมกับเป็นเกมของแก๊ง Platinum Games แห่งค่าย SEGA เพียงใด เรามาดูกัน...
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------
โคโลนี่เลเซอร์ยิงไมโครเวฟถล่มซานฟรานซิสโก โดยฝีมือของตัวร้าย นายวิคเตอร์ ไซเซฟแห่งรัสเซีย
อเมริกาไม่ยอมรับเงื่อนไขให้ยอมแพ้ ส่งกองทัพทหารขึ้นไปจัดการถึงโคโลนี่ของศัตรู
พ่วงเอาพระเอกของเรา แซม กิเดียน แห่ง Defense Advanced Research Projects Agency (DARPA) ไปด้วย
โดยนายแซมนักสูบบุหรี่ มีเกราะระดับสุดยอด Augmented Reaction Suit (ARS) และอาวุธสุดล้ำ BLADE (อาวุธปรับสภาพอัจฉริยะ)
แถมภารกิจลับช่วย ดร.ฟรานซิส แคนไดด์ ติดตัว...เขาจะไปเป็นเพียงแค่ตัวประกอบท่ามกลางทหารหาญเป็นฝูงปะทะกองทัพหุ่นยนต์
หรือ...จะไปโชว์เทพคนเดียวกันแน่
ภาพ
CG movie ดูไม่ดีนัก (ค่อนข้างคุณภาพต่ำ) แต่พอเข้าเกมไปเล่นแล้วทุกอย่างก็เปลี่ยนไป
กลายเป็นความสุดยอดอลังการของโคโลนี่ ความสวยงามของสถาปัตยกรรมล้ำสมัย ยานพาหนะทั้งข้างบนและข้างล่าง
เกมที่ไหลลื่นไม่มีสะดุด ไม่มีหระตุก ไม่มีหน่วง ไม่มีอุปสรรคในการบู๊ เอฟเฟ็คและการเคลื่อนไหวที่เท่เอาใจเด็กผู้ชายสุดๆ
สร้างความประทับใจให้กับผู้เล่นได้อย่างง่ายดายโดยไม่ต้องยืนหมุนกล้องดูเฉยๆด้วยซ้ำ แค่ลุยต่อไป แล้วชายตามองสักนิดก็อิ่มแล้ว
ไม่ว่าช่วงต้น ช่วงกลาง จนกระทั่งถึงช่วงท้ายเกม ฉากต่างๆที่สร้างสรรค์ขึ้นมา เชื่อว่าสามารถกระตุ้นอารมณ์ตื่นเต้นและตึงเครียด
ไปพร้อมกับความสวยงาม โดยเฉพาะการดีไซน์เลเวลที่มีความละเอียดสูงและกว้างขวาง
ตลอดเวลาที่เล่น ไม่พบข้อเสียแต่อย่างใด
เสียง
สงสัยอยู่ว่าเสียงแหบๆของพระเอกนี่เพราะคออักเสบเนื่องจากหนักบุหรี่หรือเปล่า
ส่วนตัวร้ายอย่างไซเซฟนี่ก็ต้องเสียงเย็นๆ ตาแก่ก็ต้องเสียงแบบตาแก่...
ด้านเพลงประกอบแนวหนังไซไฟ จะคล้ายงานเก่าๆของมิคามิอย่าง P.N. 03
จริงๆแล้วก็คล้ายกันหลายอย่าง ยกเว้นว่าเกมนี้ไม่แป้กเท่านั้นเอง
เสริมด้วยไม่ค่อยได้ยินเพลงเท่าไหร่นัก เพราะว่าเสียงกระสุนมันปลิวว่อนไปทั่วเลย
แม้กระทั่งเหลือศัตรูตัวเดียวในฉาก มันก็รัวก็ยิงกลบเพลงกลบเสียงอื่นๆหมด (แล้วนึกถึงตอนมีเต็มฉาก...)
แต่ก็ไม่มีปัญหาอะไร เพราะว่าทุกสิ่งทุกอย่างในส่วนนี้ก็ลงตัวดีไม่มีปัญหา
ที่ปลิวๆรัวๆมั่วๆอยู่ก็ส่งเสริมให้เกมดูรวดเร็วเร้าใจขึ้นไปอีก
เรื่องราว
"มีตัวร้ายอยู่ตรงนั้น ไปอัดมันเสีย" ทำให้นึกถึงเกมแอคชั่นสมัยเก่าๆ โดยไม่จำเป็นต้องใส่ความซับซ้อน มิตรภาพ การเมือง
หรือการหักมุมเข้ามาก็ได้ เข้าไปถล่มตัวร้ายถึงแหล่งมั่วสุม ถึงฐานทัพ ถล่มให้ระเบิดกระจุยกระจายสมบูรณ์ด้วยตัวมันเองอยู่แล้ว
การใส่มุกคำพูดเฉียบๆมันตลอดเวลาที่ตัวละครเปิดปาก เนื้อเรื่องมีความลึกลับ อาจจะเป็นโบนัส อาจจะเป็นสิ่งที่ทำให้เกมสูงค่าขึ้น
ทว่าการทำได้ไม่ดีเพียงพอ คำพูดเหมือนจะยัดๆ บทก็อ่อนๆ กลวงๆ ทำให้รู้สึกกระอักกระอ่วนที่ได้ยินได้ฟังได้รับรู้เสียเปล่าๆ
แล้วก็บุคลิกลักษณะแนวขบถๆกวนๆอย่างแซม พอกลางเรื่องกลายเป็นพระเอกการ์ตูนแนวปกป้องทุกคนไปได้ซะอย่างนั้น...
แต่ก็ยังพอมองข้ามไปได้ เพราะชีวิตนี้ก็ดูภาพยนตร์-เล่นเกมแอคชั่นบทเบาบางกว่านี้มาเยอะแล้ว ไปเน้นถล่มศัตรูต่อดีกว่า
นอกจากนี้ทุกอย่างดำเนินเร็ว และไม่เยิ่นเย้อ แถมทิ้งความปรารถนาในการทำภาคต่อไว้อีกด้วย (ขอให้ขายดีๆละกันนะ)
ระบบและความสนุก
ผู้เล่นมีชุดเกราะสุดแกร่งที่เคลื่อนไหวได้รวดเร็วเหนือมนุษย์ปกติและสไลด์ไปยังจุดหมายระยะไกลได้
มีอาวุธนานาชนิดที่สามารถพัฒนาให้ทรงอานุภาพขึ้น มีระเบิดแรงสูงและระเบิดช็อต มีซองซิกาแร็ตไม่จำกัดไว้สูบผ่อนคลาย
มีกองทหารทั้งกองคอยสนับสนุน มีตาแก่ปากดีคอยยิงมุกใส่กันแก้เหงา
ศัตรูมีลูกกระจ็อกตัวแดงตัวฟ้าตัวเหลืองให้ยิงเล่น มีศัตรูยักษ์สุดอึดที่ต้องหาจุดอ่อน หรือหาเทคนิควิธีสู้
ที่มีประสิทธิภาพหลากหลายตามที่ผู้เล่นถนัด มียานพาหนะและยุทโธปกรณ์แปลกๆมากมายให้หาทางจัดการ
มีบอสที่โหดร้ายพอสมควร และมีจำนวนมหาศาลประเดประดังเข้ามา
ตัวเกมบังคับอยู่ในแนวแอคชั่นมุมมองบุคคลที่สามมองผ่านไหล่และหลัง เช่นเดียวกับ Gear of War หรือ Bio Hazard ภาคหลังๆ
โดยความเร็วของเกม อยู่ในระดับที่สูงมาก และดูเหมือนจะมั่วมาก แต่จริงๆแล้วไม่ใช่ เกมมันมีจังหวะของมันอยู่
ซึ่งผู้เล่นต้องเล่นจนชำนาญ เพราะเกมใช้ปุ่มทุกปุ่ม และตัวละครเอกที่เราบังคับ ก็ไม่ได้อึดอะไรเลย
แต่มีความคล่องตัวระดับเทพ ที่ผู้เล่นจะต้องบังคับให้ถูกที่ ถูกเวลา รวมถึงอาวุธแต่ละชนิดด้วย
ทางด้านความยาก ทำออกมาได้สมดุลจริงๆ มีส่วนคล้ายกับเกมแนว Platform ดีๆ ที่ผู้เล่นต้องมีสมาธิ
ต้องใช้สมองและร่างกายต้องตอบสนองให้แม่นยำ แล้วจะสามารถผ่านได้อย่างง่ายดาย ค่อยๆฝึก
แล้วผู้เล่นจะเก่งขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เสร็จก็สามารถทำลายสถิติของตนเอง หรือนำความสามารถไปใช้กับเกมอื่นได้
ส่วนทางด้านผู้ที่ต้องการความยากแบบ "โหดไม่เข้าเรื่อง" เกมนี้ก็สามารถสนองตอบตัณหาได้ที่โหมด Challenge
ส่วนผู้ที่ต้องการเก็บของตามทาง(เพื่อ Record หรือเพื่อ AP/Trophy ก็ตามแต่) เกมนี้ก็มีตุ๊กตาทองให้ยิงเล่นถึงร้อยกว่าตัว
ข้อเสียโดยส่วนตัวแล้ว อยากให้พระเอกต่อยทนกว่านี้ นี่แค่ลูกถีบเดียว ก็โอเวอร์ฮีตเผ่นแนบแทบไม่ทัน
แล้วก็ตอนกด AR (สโลว์โหมด) ของ PS3 กดยากมาก ปุ่ม L2R2 มันต้านนิ้ว
คะแนน
ภาพ 10/10 สวยงาม รวดเร็ว อลังการ
เสียง 8/10 ตามประสา Sci-fi; ปิ้วๆ จิ้วๆ แวบ ตูม บรึ้ม เปรี้ยง แค่กๆๆ ...ฟัก! โดนยิง!!
ตัวละครและการดำเนินเรื่อง 7/10 อาจจะผู้กำกับสั่งซะเยอะ บทพูดเหมือนจงใจให้ขำไปหน่อย
(และค่อนข้าง Cliche - สำนวนซ้ำซาก) แต่จะเอาอะไรมาก กับเกมแนวบู๊มาก่อน อย่างอื่นทีหลัง อย่าไปคิดมากเสียดีกว่า
แต่ส่วนตัวแล้ว ชอบมุกฉลาดๆใส่มาเนียนๆมากกว่ายิงใส่กันพร่ำเพรื่อกะเอาให้ขำให้ได้ มันฝืนใจกันเกินไป
เกมเพลย์ 10/10 เกินคำบรรยาย ความยากง่ายสมดุลและเข้าใจง่าย และสามารถเล่นซ้ำทำสถิติได้อย่างสนุกสนาน
คอ RPG อย่างผู้เขียนแทบจะเป็นลมหลังเล่นจบ เร้าใจจริงๆ โหมด Challenge ก็ "ท้าทาย" โหดร้ายตรงตามพจนานุกรม
รวม 9/10 สุดยอด
ให้เต็มสิบก็ได้ แต่เกมยังไม่ถึงขั้นความสมบูรณ์แบบในส่วนใดเป็นพิเศษ และจะกั๊กไว้ให้สำหรับงานต่อๆไปของมิคามิซัง
(เปลี่ยนคนเขียนบท เขียนเนื้อเรื่องเสียด้วย บาโยเน็ตต้ายังทำได้แน่นได้ดีกว่านี้เยอะเลย)
แต่รับรองให้ถึงความคุ้มค่าและความสนุกของเกมนี้ สำหรับทั้งคอแอคชั่น และคอเกมบู๊เร้าใจ
พี่แซมเบลอซะแล้ว จะบุกโคโลนี่อารมณ์ไหน...
เครดิต :Kanann