Review: Call of Duty: Black Ops (Multi)
สงครามเย็น, สงครามเวียดนาม, CIA, หน่วยพิเศษ, สายลับ, Black Operations
หลังสงครามโลกครั้งที่สอง ชีวิตผู้คนก็ใช่ว่าจะสงบสุขกันไปตลอดรอดฝั่ง
การเขม่นกันระหว่างสองประเทศมหาอำนาจสหรัฐอเมริกา vs. สหภาพโซเวียต ส่งผลกระทบไปทั่วโลก
Call of Duty: Black Ops เหล่าทหารถูกเรียกมาเพื่อหน้าที่อีกครั้ง
...หน้าที่อันซับซ้อน และสกปรก...
เรื่องราวเกิดขึ้นในยุคสงครามเย็น ที่ผู้เล่นจะได้สวมบทบาท Alex Mason เจ้าหน้าที่ปฏิบัติการพิเศษของกระทรวงกลาโหมสหรัฐ
และเจ้าหน้าที่ CIA Jason Hudson ในแผนการลับของทีมจัดตั้งพิเศษ Studies and Observations Group (SOG)
มีหน้าที่ลอบเข้าไปยังถิ่นของศัตรูเพื่อข้อมูลของอาวุธชีวภาพ Nova-6 กุญแจสำคัญในเนื้อเรื่องเกมนี้
โดยทั้งคู่จะต้องผ่านภารกิจในสภานที่ต่างๆที่เป็นของฝ่ายคอมมิวนิสต์ เช่นโซเวียตรัสเซีย คิวบา ลาว และเวียดนาม
โดยเมสันจะร่วมเดินทางไปกันกับนายทหาร Viktor Reznov ตัวละครจาก Call of Duty: World at War ในหลายๆสถานการณ์
นอกจากนั้นในเกม ผู้เล่นจะได้เห็นตัวละครที่มีตัวตนจริงอย่างอดีตประธานาธิบดี John F. Kennedy แห่งอเมริกา
และ Fidel Castro แห่งคิวบามีส่วนรวมในเรื่องราวนี้ด้วย
...เมสันถูกล่ามติดเก้าอี้ ถูกสอบสวน อาการจิตหลอน ประสาทกลับแบบแปลกๆ พิลึกพิกล
จากนั้นก็พาย้อนอดีตไปสู่ช่วงเวลาระหว่างปี 1961 และ 1968 เพื่อไขปริศนาอะไรหลายๆอย่าง และนั่นคือจุดที่เกมเริ่มต้นขึ้น
ระเบิดภูเขา (ภาพ)
ภาพมาตรฐาน Call of Duty ที่สวยงาม เคลื่อนไหวที่ลื่นไหลพอถูกต้องตามฟิสิกส์ ไม่ยึกยักเป็นหุ่นยนต์
บวกไปด้วยแขนขาด ขาขาด สมองระเบิดกระจุย ระเบิดถล่มทลายกันเห็นๆ การตัดฉากระหว่างเล่าเรื่องชวนแพ้ท้อง
และการบุกตะลุยไปยังภูมิประเทศต่างๆตั้งแต่ลุ่มแม่น้ำโขง เมืองในเวียดนาม ไปจนถึงแดนหิมะหรรษา เต็มอิ่ม 15 ด่าน
อาจจะไม่อลังการงานสร้างเท่าภาค Modern Warfare 2 และค่อนข้างลดคุณภาพงานลงไปบ้างเล็กน้อยในภาพรวม
แต่ก็ไม่มีข้อเสียให้ติ หรือข้อติดขัด ขัดขวางการเล่นแต่อย่างใด
แล้วก็ IW Engine รุ่นพัฒนาแล้วที่ทำให้เวอร์ชั่นคอนโซลเล่นได้แบบ 60 เฟรมต่อวินาทีอย่างเต็มที่นี้น่าประทับใจจริง
เผากระท่อม (เสียง)
พากย์สมบูรณ์ได้อารมณ์ อยากฟังเสียงตัวละครโซเวียตเว้าภาษารัสเซียแบบเต็มๆบ้าง ไม่อยากให้น้อยหน้าภาษาเวียดนาม
แต่ก็ออกมาเช่นเดิม คือคนรัสเซียจะพูดภาษาอังกฤษสำเนียงแปร่งๆตลอดเช่นเคย
ด้านเพลงประกอบ ภาคที่แล้ว (Modern Warfare 2) ข่มด้วยนักแต่งเพลงภาพยนตร์ชื่อดัง Hans Zimmer
อลังการงานสร้างเสียขนลุกซู่ทั้งตัว ในด่านกรุงวอชิงตันแล้วก็อื่นๆไปพร้อมกับเนื้อเรื่องเข้มข้น
ทว่า Black Ops ก็ตอบโต้กลับด้วยแนวเพลงที่หลากหลาย ตั้งแต่ Rock ยุคซิกตี้ ไปจนกระทั่งรัสเซียคลาสสิคเลยทีเดียว
ได้อารมณ์เร้าใจไปอีกแบบ ...Sympathy for the Devil(Rolling Stones) กับ Fortunate Son(CCR) เข้ากับเกมมั้ย...ไม่นะ
ส่วนข้อเสียที่เน้นๆกันก็คงจะเป็นพวกเสียงปืนเหมือนประทัด หรือระเบิดตูมตามเสียงเหมือนกันหมด
ก็อาจจะทำให้ผู้เล่นที่ชอบเสพเสียงไม่พอใจบ้าง โดยเฉพาะผู้ใช้หูฟังที่เสียงตีกันค่อนข้างมั่วและไม่ชัดเจน
(ไปเปรียบเทียบตรงๆกับ Medal of Honor ฉบับ Reboot ได้เลย)
ซ้อมพระเอก (Single-player)
มาถึงส่วนที่ดีที่สุดของเกมนี้กันบ้าง
ดีที่สุด และก็ดีกว่าเกมแนวสงครามอื่นๆอีกหลายเกมด้วย
แม้ว่าการตัดฉาก การเล่าเรื่องที่ถ้าไม่คิดตามมีงงแน่ (แถมจะมีอาเจียนบนพื้นด้วยอีกอย่าง)
แต่ก็ทำได้น่าติดตาม สนุก ตื่นเต้นไปกับการปฏิบัติการลับของทั้ง Mason และ Hudson
รวมทั้งชะตากรรมของ ตัวละครจาก World at War ด้วย เล่นเอาอ้าปากค้าง เพราะอินสุดๆ
บริการแฟนๆ กันอย่างเต็มที่
ผู้เล่นจะได้ทั้งรับหน้าที่ทหารเดินเท้า ขับเรือ ขับรถ ขับเครื่องบิน ดำน้ำ ฯลฯ
และเป็นทั้งเชลยศึก ทั้งสายลับ ทั้งนักขับเครื่องบินสอดแนม ทั้งรัสเซียและอเมริกัน
สู้กับหน่วยลับโซเวียต ทหารเยอรมัน ทหารเวียดกง บุกป่าฝ่าหิมะทลายเมือง หลายสมรภูมิด้วยกัน
ซึ่งขณะที่เป็นภารกิจสกปรก อาจจะได้เจอศัตรูจำนวนน้อยไปบ้าง แต่อารมณ์ที่ได้ก็ต่อเนื่องไปตลอดตั้งแต่ต้นจนจบ
อย่างที่กล่าวไปว่าแม้จะไม่อลังการเท่า Modern Warfare พี่น้องกัน แต่ก็ได้อีกความรู้สึกหนึ่งที่อะไรก็มาทดแทนไม่ได้
AI พวกพ้องช่วยได้บ้างไม่ได้บ้าง ความยากโหมด veteran ที่แทบจะต้องขอความปราณีจากเกม
ว่านี่เล่นเกมอยู่ ไม่ได้จะไปเกณฑ์ทหารจะได้โดนยิงนัดเดียวตาย (หนีไปเล่น Regular ดีกว่า)
แถมโดนยิงทีก็แดงเถือกทั้งจอ หนีไม่ถูกอีก แต่ก็ใช้เวลา 4-5 ชั่วโมงจบมาได้ ถือว่าไม่ง่ายไม่ยากเกินไปนัก
ทางด้านเนื้อเรื่อง จะไม่กล่าวถึงสงครามต่อสู้กับแดงคอมมิวนิสต์มากนัก และไม่ถึงขนาด propaganda ฝ่ายนี้ดีทางนั้นเลว
แต่จะอยู่กับตัวละครสำคัญโดยไม่มีประวัติศาสตร์เข้ามาเกี่ยวข้อง เกี่ยวกับอารมณ์ความรู้สึกและความผูกพันธ์เสียมากกว่า
ทำให้ Call of Duty ก็ยังคงเอกลักษณ์ในแบบ Call of Duty ไปอย่างแอคชั่น จบอย่างพระเอก อวสานอย่างเป็นที่จดจำ
ไม่ได้สื่อถึงความโหดร้ายของสงครามที่ซีเรียสสมจริง
เขกกบาลผู้ร้าย (Multiplayer และอื่นๆ)
รีวิวเจ้าอื่นๆจะเน้นมาทางเล่นออนไลน์หรือ Multiplayer เราจะประชดด้วยการพูดถึงนิดเดียว
...ล้อเล่นนะ... เพราะมันเป็นของตายสำหรับแฟนๆ FPS อยู่แล้ว ขาโดนดูดพลังชีวิตให้กับการยิงกันทั้งวันทุกวัน
ต้องทราบ ต้องเซียนมากกว่าผู้เขียนขาจรผู้นี้อยู่แล้ว ซึ่งมีกันอยู่เป็นล้านๆคน ในทุก platform ที่ Black Ops วางจำหน่าย
นอกจาก ZOMBIE โหมดไล่ยิงผีดิบออนไลน์ 4 คน (หรือแยกจอ) ที่ทำเอาฮามากแล้วแน่นอน ขาดไม่ได้
ก็คือ Multiplayer เก็บคลาส ประกอบอาวุธ ในโหมด ในสไตล์ต่างๆที่หลากหลายนั่นเอง
โดยนอกจากจะสามารถเล่นกันข้ามโลกได้แล้ว ตัวเกมยังให้ผู้เล่นสามารถเล่นแบ่งจอกับเพื่อนที่นั่งข้างๆ
หรือใช้ AI คอมพิวเตอร์เล่นด้วย เพื่อซ้อมมือก็ได้ ช่วยให้ไม่หวั่นแม้วันเน็ตเน่า(?) ฆ่าเวลาเอาเพลินๆก็ย่อมได้
